ค่ารักษาพยาบาล(ฉุกเฉิน) ต้องมีสำรองเท่าไหร่ถึงจะพอดี
11 Apr 2024 | เมื่อ 11:20 น.
“อุบัติเหตุ” เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน เวลาไหน ยิ่งเหตุการณ์แบบฉุกเฉินไม่ทันตั้งตัว อาจจะส่งผลต่อ ค่ารักษาพยาบาล ชนิดที่อาจทำให้หมดตัวได้ ซึ่งแน่นอนว่าประกันต่างๆ เช่นประกันชีวิต,ประกันอุบัติเหตุ, ประกันสังคมก็อาจไม่ครอบคลุม ดังนั้นการเตรียมเงินสำรองสำหรับค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องสำคัญและต้องเตรียมให้พอดี ซึ่งความพอดีของจำนวนเงินอาจต้องดูที่ปัจจัยดังต่อไปนี้
ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่า การรักษาพยาบาลจะมีอยู่ 2 แบบ คือ
- ผู้ป่วยใน (IPD: In Patient Department) คือต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่ำ 6 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยต่อเนื่อง หรือเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลนั่นเอง ซึ่งค่ารักษาพยาบาลจะมีในส่วนของ ค่าห้อง เพิ่มขึ้นมาด้วย
- ผู้ป่วยนอก (OPD: Out Patient Department) คือไม่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เป็นการรักษาพยาบาลแบบไป-กลับ เช่น การทำแผลเล็กๆน้อยๆ, การตรวจร่างกาย ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายของค่าห้อง
โดยทั้ง 2 แบบนี้ค่อนข้างสำคัญต่อค่ารักษาพยาบาลและการทำประกันไม่น้อย เพราะบางประกันไม่ครอบคลุมการรักษาแบบใดแบบหนึ่ง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งหากไม่ได้เตรียมเงินสำรองไว้ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาการเงินขึ้นมาได้ ดังนั้นคงต้องมาดูว่าค่าใช้จ่ายหรือปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อค่ารักษาพยาบาล
- ค่ายา: “ยารักษาโรค” ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของการรักษาพยาบาล ซึ่งกลุ่มยาแต่ละประเภทจะมีราคาถูกแพงขึ้นอยู่กับโรคหรืออาการของคนไข้ และราคาจะแตกต่างกันในแต่ละโรงพยาบาล ซึ่งหากไม่ได้เป็นโรคที่ร้ายแรงหรือโรคที่ต้องใช้ยารักษามากมาย ค่ายา ควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 5-10%
- ค่าทำแผล: การทำแผล, ล้างแผล, เองก็มีความสำคัญ เพราะหากทำไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ อันตรายแก่ชีวิตและส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งค่าทำแผลอาจไม่สูงมากนักหากเป็นเล็กๆน้อยๆ หรือไม่รุนแรง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้ามและควรสำรองเงินไว้อย่างน้อย 5-10%
- ค่าตรวจ: การตรวจหาโรค, ตรวจอาการ, ตรวจร่างกายต่างๆ ค่าใช้จ่ายนี้จะสูงขึ้นหากมีตรวจอย่างละเอียด ควรสำรองเงินไว้อย่างน้อย 5-20%
- ค่าหมอ: หรือค่าบริการทางการแพทย์ ค่ารักษาขึ้นอยู่กับการบริการนั้นเช่น ตรวจหาโรค,รักษาโรคเฉพาะทาง, หมอประจำตัวซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะต้องจ่ายเพิ่มหากมีการรักษาเฉพาะทางโรคนั้นๆ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงค่าจ้างพยาบาลพิเศษกรณีที่ต้องนอนโรงพยาบาลหรือรักษาตัวที่บ้านแบบมีพยาบาลดูแล
- ค่าห้อง, ค่าอาหาร: สำหรับคนไข้ที่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะมีค่าห้องและค่าอาหารเพิ่มขึ้นมา ซึ่งหากไม่ได้ซื้อประกันที่ครอบคลุมค่าห้องพยาบาล ก็จำเป็นต้องจ่ายในส่วนนี้เอง
การเตรียมเงินสำรองค่ารักษาพยาบาล(ฉุกเฉิน) ควรมีอย่างน้อย ให้พอดีกับค่าใช่จ่ายที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเป็นเหตุฉุกเฉินที่อาจไม่จำเป็นต้องเคลมประกันทุกครั้งไป สิ่งสำคัญคือควรวางแผนการเงินสำหรับรักษาพยาบาลให้ดีและรอบคอบ ควรหาแหล่งเก็บเงินสำรองนี้ให้มั่นคง
อ่านบทความเพิ่มเติม “เราควรมี "เงินฉุกเฉิน" กี่บาท?”
